ฟุตบอลโลก 2026 (อังกฤษ: 2026 FIFA World Cup; สเปน: Copa Mundial de la FIFA 2026; ฝรั่งเศส: Coupe du Monde FIFA 2026) เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลโลกครั้งที่ 23 ซึ่งเป็นการแข่งขันชิงแชมป์โลกระหว่างทีมชาติที่เป็นสมาชิกของฟีฟ่า การแข่งขันจัดขึ้นใน 16 เมืองของแคนาดา เม็กซิโกและสหรัฐ แบ่งเป็น 80 นัด โดยสหรัฐจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันทั้งหมด 60 นัด รวมถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ, รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ ส่วนแคนาดาและเม็กซิโกจะจัดการแข่งขันประเทศละ 10 นัด ฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีเจ้าภาพถึง 3 ประเทศ วันนี้เราได้รวบรวมเกี่ยวกับเรื่องต่างๆของฟุตบอลโลกไว้ที่นี่แล้ว ไปดูกันเลย..
ฟุตบอลโลก — ประวัติความเป็นมาความขลังของฟุตบอล
ฟุตบอลโลก หรือ ฟีฟ่าเวิลด์คัพ (อังกฤษ: FIFA World Cup) เป็นการแข่งขันฟุตบอลระหว่างประเทศ โดยมีชุดทีมชาติชายร่วมเข้าแข่งในกลุ่มสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (FIFA) การแข่งขันจัดขึ้นทุกๆ 4 ปี เริ่มครั้งแรกในปี ค.ศ. 1930 ยกเว้นในปี ค.ศ. 1942 และ 1946 ที่งดเว้นไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทีมชนะเลิศการแข่งขันครั้งล่าสุดคือทีมชาติอาร์เจนตินา ในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022
จุดเริ่มต้นของการจัดฟุตบอลโลก เกิดขึ้นมาจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ต้องการจัดการแข่งขันฟุตบอลรายการระดับโลกที่นอกเหนือจากโอลิมปิก เนื่องจากมองว่า การแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิกนั้น เป็นการแข่งขันสำหรับมือสมัครเล่น ซึ่งแนวคิดนี้เริ่มขึ้นใน ค.ศ. 1914 แต่กว่าจะได้เริ่มจัดการแข่งขันจริงๆก็ต้องรอ ยุค จูลส์ ริเมต์ ประธานคนแรกของฟีฟ่า
การแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรก จัดขึ้นที่ประเทศอุรุกวัย ในปี ค.ศ. 1930 มีทีมเข้าร่วมทั้งหมด 13 ทีม โดยอุรุกวัยสามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ซึ่งฟุตบอลโลกครั้งแรกนั้น มีทีมเข้าร่วมเพียง 13 ทีม โดยอุรุกวัยสามารถคว้าแชมป์ไปได้ โดยชนะอาร์เจนตินาในนัดชิงชนะเลิศด้วยผล 4-2
ฟุตบอลโลกได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกๆ 4 ปี ยกเว้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โดยทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกคือทีมชาติบราซิล ซึ่งสามารถคว้าแชมป์ได้ 5 สมัย รองลงมาคือทีมชาติเยอรมนีและทีมชาติอิตาลี ที่ชนะได้ 4 สมัยเท่ากัน มีผู้ชมจากทั่วโลกให้ความสนใจอย่างล้นหลาม โดยการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายจะมีทีมเข้าร่วมทั้งหมด 32 ทีม โดยแบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม ทีมที่ชนะเลิศในแต่ละกลุ่มจะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ฟุตบอลโลกได้กลายเป็นหนึ่งในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยการแข่งขันรอบสุดท้ายมีจำนวนผู้ชมเป็นจำนวนมาก และมีผู้ชมทั่วโลกติดตามการแข่งขันผ่านสื่อต่างๆ เป็นจำนวนมาก
ฟุตบอลโลก 2026 — เจ้าภาพจัดงาน 3 ประเทศ!
เจ้าภาพฟุตบอลโลก 2026 คือ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ โดยการแข่งขันจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน – 19 กรกฎาคม 2026 เป็นครั้งแรกที่มีเจ้าภาพถึง 3 ประเทศ
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 จะเป็นครั้งแรกที่เพิ่มทีมเข้ารอบสุดท้ายจากเดิม 32 ทีม เป็น 48 ทีม ส่งผลให้การแข่งขันจะเพิ่มขึ้นจากเดิม 64 นัด เป็น 104 นัด แบ่งเป็น 16 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม โดยแชมป์และรองแชมป์กลุ่ม และ 8 ทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดจะได้ผ่านเข้ารอบ 32 ทีมสุดท้าย
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 จะจัดขึ้นที่ 16 เมืองของแคนาดา เม็กซิโกและสหรัฐ โดยสหรัฐจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันทั้งหมด 60 นัด รวมถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ, รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ ส่วนแคนาดาและเม็กซิโกจะจัดการแข่งขันประเทศละ 10 นัด
เหตุผลที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา และ เม็กซิโกได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพร่วมกันมีดังนี้
- มีโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬาที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว รวมถึงสนามกีฬาขนาดใหญ่หลายแห่ง
- มีศักยภาพในการดึงดูดผู้ชมจากทั่วโลก
- เป็นพันธมิตรทางการค้าและวัฒนธรรมที่ใกล้ชิดกัน
เมืองเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2026 ได้แก่
สหรัฐอเมริกา
- เมืองแอตแลนตา
- เมืองบอสตัน
- เมืองชิคาโก
- เมืองคลีฟแลนด์
- เมืองดัลลัส
- เมืองฮูสตัน
- เมืองลอสแองเจลิส
- เมืองไมอามี
- เมืองนิวยอร์ก
- เมืองฟิลาเดลเฟีย
- เมืองซานฟรานซิสโก
แคนาดา
- เมืองเอ็ดมอนตัน
- เมืองวินนิเพก
- เมืองมอนทรีออล
- เมืองโตรอนโต
เม็กซิโก
- เมืองกวาดาลาฮารา
- เมืองเม็กซิโกซิตี
- เมืองมอนเตร์เรย์
- เมืองตลาวัก
ฟุตบอลโลก 2026 — มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง ?
ฟุตบอลโลก 2026 มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญหลายประการจากฟุตบอลโลกครั้งก่อนๆ การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมีหลายประการ เราได้รวบรวมเรื่องราวต่างๆไว้แล้ว ดังนี้
- การขยายจำนวนทีม
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2566 สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้อนุมัติรูปแบบการแข่งขันใหม่สำหรับฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2026 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา, แคนาดา และ เม็กซิโก เป็นเจ้าภาพร่วม ซึ่งรูปแบบใหม่ จะเพิ่มทีมเข้ารอบสุดท้ายจากเดิม 32 ทีมเป็น 48 ทีม จะมีการแข่งขันเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 40 นัด รวมจำนวนการแข่งขันทั้งหมดเป็น 104 นัด ในรอบสุดท้าย
- รูปแบบการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม
แทนที่จะแบ่งทีมออกเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม ทีมจะถูกแบ่งออกเป็น 16 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ทีม ทีมที่ชนะและรองชนะเลิศของแต่ละกลุ่มจะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย
รูปแบบการแข่งขันใหม่นี้ ช่วยให้ทีมจากทวีปแอฟริกาและอเมริกาเหนือมีโอกาสที่จะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมากขึ้น เนื่องจากทีมเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะแข่งขันกับทีมจากทวีปอื่นได้ดีกว่าในรอบแบ่งกลุ่ม
- จำนวนวันแข่งขัน
การเปลี่ยนแปลงอีกอย่างคือ การเพิ่มวันแข่งขันจาก 32 วันเป็น 39 วัน การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ทีมแต่ละทีมมีเวลาพักมากขึ้นระหว่างการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2026 จะมีการแข่งขันทั้งหมด 104 นัด เพิ่มขึ้นจาก 64 นัดในฟุตบอลโลก 2022 การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ทีมแต่ละทีมมีเวลาพักมากขึ้นระหว่างการแข่งขัน เนื่องจากการแข่งขันจะใช้เวลานานกว่า 3 สัปดาห์
- เทคโนโลยี VAR
มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยในการแข่งขัน เช่น
เทคโนโลยี VAR (Video Assistant Referee)
- เพื่อช่วยในการตัดสินใจของกรรมการ
- เพื่อช่วยตัดสินว่าลูกบอลได้เข้าประตูหรือไม่
- ช่วยให้กรรมการสามารถดูภาพจากกล้องหลายมุมเพื่อตัดสินใจในจังหวะที่ยากลำบาก
- ช่วยให้การแข่งขันมีความยุติธรรมและแม่นยำมากขึ้น
- ลูกบอลรุ่นใหม่
ลูกบอลรุ่นใหม่ที่เรียกว่า Al Rihla จะถูกใช้ในฟุตบอลโลก 2026 การพัฒนาลูกบอลนี้ใช้เทคโนโลยีล่าสุดเพื่อให้ลูกบอลเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้นและแม่นยำยิ่งขึ้น ลูกบอล Al Rihla ยังมีสีสันสดใสและลวดลายที่สวยงาม
ฟุตบอลโลก 2026 — รูปแบบการแข่งขัน โซนเอเชีย
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 โซนเอเชีย มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 46 ทีม ซึ่งจะคัดเลือกทีมไปแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 8.5 ทีม รูปแบบการแข่งขันแบ่งออกเป็น 5 รอบดังนี้
รอบที่ 1 (22 ทีม) : ทีมอันดับที่ 26-47 ของทวีปเอเชีย แข่งขันแบบแพ้คัดออก เหย้า-เยือน ผู้ชนะทั้ง 11 ทีมจะผ่านเข้าสู่รอบที่ 2 ทีมที่แพ้ในอันดับที่ดีที่สุด 1 ทีม จะได้ผ่านเข้ารอบรอบที่สามของเอเชียนคัพ ทีมที่แพ้ที่เหลือจะได้ผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟ
รอบที่ 2 (36 ทีม) : ทีมอันดับที่ 1-25 ของทวีปเอเชีย ร่วมกับทีมชนะจากรอบที่ 1 รวมเป็น 36 ทีม แบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม แข่งขันแบบพบกันหมดเหย้า-เยือน ทีมอันดับที่ 1 และ 2 ของแต่ละกลุ่มจะผ่านเข้าสู่รอบที่สาม
รอบที่ 3 (24 ทีม) : ทีมชนะจากรอบที่ 2 รวมเป็น 24 ทีม แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม แข่งขันแบบพบกันหมดเหย้า-เยือน ทีมอันดับที่ 1 ของแต่ละกลุ่มจะผ่านเข้าสู่รอบที่ 4
รอบที่ 4 (12 ทีม) : ทีมชนะจากรอบที่ 3 รวมเป็น 12 ทีม แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม แข่งขันแบบพบกันหมดเหย้า-เยือน ทีมอันดับที่ 1 และ 2 ของแต่ละกลุ่มจะผ่านเข้าสู่รอบที่ 5
รอบที่ 5 (8 ทีม) : ทีมชนะจากรอบที่ 4 รวมเป็น 8 ทีม แข่งขันแบบน็อคเอาท์ เหย้า-เยือน ทีมชนะทั้ง 4 ทีมจะผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
สำหรับทีมที่ได้อันดับ 5 ในรอบที่ 5 จะได้เป็นทีมอันดับที่ 5 ของโซนเอเชีย และจะได้สิทธิ์แข่งขันเพลย์ออฟกับทีมอันดับที่ 5 ของโซนอเมริกาใต้เพื่อชิงโควตาฟุตบอลโลกอีก 1 ที่นั่ง
สำหรับประเทศไทย ผ่านเข้ารอบที่ 2 ในฐานะทีมอันดับที่ 13 ของทวีปเอเชีย โดยได้อยู่กลุ่ม A ร่วมกับ อิรัก, ยูเออี และ ศรีลังกา
ในรอบที่ 3 ประเทศไทยอยู่กลุ่ม D ร่วมกับ ออสเตรเลีย, ยูเออี และ เยเมน
ในรอบที่ 4 ประเทศไทยอยู่กลุ่ม B ร่วมกับ อิหร่าน, ยูเออี และ ศรีลังกา
ในรอบที่ 5 ประเทศไทยจะพบกับทีมชนะจากรอบที่ 4 กลุ่ม A
ฟุตบอลโลก — รวมสถิติต่างๆที่น่าสนใจ
สถิติฟุตบอลโลกของแต่ละทีมและนักเตะในปัจจุบันยอมรับว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญในการคาดการณ์ผลการแข่งขัน จึงไม่ต้องสงสัยว่าสถิติฟุตบอลโลกเป็นองค์ความรู้ที่ได้รับความนิยมในวงการกีฬานี้ วันนี้เราจะพาไปดูสถิติเกี่ยวกับฟุตบอลโลก มีเรื่องอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย
- ฟุตบอลโลกครั้งแรกจัดขึ้นในปี 1930 ที่ประเทศอุรุกวัย โดยมีทีมเข้าร่วมทั้งหมด 13 ทีม และอุรุกวัยก็คว้าแชมป์ไปครอง
- ทีมที่ชนะเลิศฟุตบอลโลกมากที่สุด คือ ทีมชาติบราซิล โดยคว้าแชมป์ไปแล้ว 5 สมัย
- ทีมชาติอาร์เจนตินา เป็นทีมเดียวที่ชนะเลิศฟุตบอลโลกทั้งในระดับทวีปและระดับโลก โดยชนะเลิศฟุตบอลโลก 3 สมัย และฟุตบอลอเมริกาใต้ 15 สมัย
- ทีมชาติอิตาลี เป็นทีมเดียวที่ชนะเลิศฟุตบอลโลกทั้ง 2 ทวีป โดยชนะเลิศฟุตบอลโลก 4 สมัย และฟุตบอลยุโรป 2 สมัย
- ทีมชาติเยอรมนี เป็นทีมเดียวที่ชนะเลิศฟุตบอลโลกทั้ง 2 ทวีปด้วยทีมที่แตกต่างกัน โดยชนะเลิศฟุตบอลโลก 4 สมัย โดยทีมชาติเยอรมนีตะวันตกคว้าแชมป์ 3 สมัย และทีมชาติเยอรมนีคว้าแชมป์ 1 สมัย และเป็นทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุดในฟุตบอลโลก โดยยิงไปได้ 228 ประตู
- ทีมชาติฝรั่งเศส เป็นทีมเดียวที่ชนะเลิศฟุตบอลโลกทั้ง 2 ทวีปด้วยทีมที่ไม่เคยแพ้ใครตลอดการแข่งขัน โดยทีมชาติฝรั่งเศสชนะเลิศฟุตบอลโลก 2 สมัย โดยทีมชาติฝรั่งเศสคว้าแชมป์ในปี 1998 และ 2018
- ทีมชาติอังกฤษ เป็นทีมเดียวที่ไม่เคยชนะเลิศฟุตบอลโลก โดยเข้าร่วมการแข่งขันมาแล้ว 15 ครั้ง แต่ไม่เคยคว้าแชมป์ได้
- ทีมชาติไทย เคยเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกเพียงครั้งเดียวในปี 1954 โดยแพ้ให้กับทีมชาติออสเตรเลีย 1-2
- นักเตะที่อายุน้อยที่สุด ที่ลงเล่นในฟุตบอลโลก คือ นอร์แมน ไวท์ไซด์ จากไอร์แลนด์เหนือ ลงเล่นในฟุตบอลโลก 1982 ด้วยวัย 17 ปี
- นักเตะที่อายุมากที่สุด ที่ลงเล่นในฟุตบอลโลก คือ โรแบร์โต บาจโจ จากอิตาลี ลงเล่นในฟุตบอลโลก 2002 ด้วยวัย 36 ปี
นอกจากนี้ ยังมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าสนใจเกี่ยวกับฟุตบอลโลกอีกมากมาย เช่น
- ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ เป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกที่จัดขึ้นในทวีปเอเชีย
- ฟุตบอลโลก 2022 เป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกที่ใช้ระบบล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ
- ฟุตบอลโลก 2022 เป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกที่มีทีมเข้าร่วมทั้งหมด 32 ทีม
ฟุตบอลโลก 2026 — ดูบอลโลก ได้ช่องทางไหนบ้าง ?
หนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้คุณเข้าถึงการดูบอลโลกได้มากยิ่งขึ้นคือการใช้บริการสตรีมมิ่ง หรือการถ่ายทอดสดผ่านทางอินเตอร์เน็ต ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีออนไลน์ค่อนข้างถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว การที่คุณสามารถรับชมการแข่งขันทุกแมทซ์ ได้ทุกที่ทุกเวลาทั่วโลกง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
ซึ่งปัจจุบันในไทย ช่องทางต่างๆที่สามารถรับชมได้ มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
ช่องฟรีทีวี : ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป ทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้อนุญาตให้ช่องฟรีทีวี 17 ช่อง ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 แบบคู่ขนานกับทางกลุ่มทรู ช่องที่ถ่ายทอดสด ได้แก่
ช่องทางของกลุ่มทรู ดังนี้
- ผู้ที่ใช้แพ็กเกจ Truemove H สามารถดูบอลโลกได้ฟรีผ่านแอป TrueID บนมือถือและแท็บเล็ต แต่ต้องสมัครแพ็กเกจ True Unlock เพิ่มเติมเพื่อรับชมช่อง True Sports 2 และ True Sports 5 บนกล่อง TrueIDTV
- ผู้ที่ใช้แพ็กเกจ True Online สามารถดูบอลโลกได้ฟรีผ่านกล่อง TrueIDTV แต่ไม่สามารถรับชมทางเว็บไซต์ได้ ถ้าต้องการดูบนมือถือต้องดูผ่านแอปฯ TrueID เท่านั้น
- ผู้ที่มีกล่อง TrueIDTV สามารถรับชมบอลโลกได้ผ่านช่อง True Sports 2, True Sports 5 และช่องฟรีทีวี
ช่องทางของฟรีทีวี ซึ่งหากมีการซื้อลิขสิทธิ์จะมีช่องทางรับชม ดังนี้
- ช่อง 3
- ช่อง 5
- ช่อง 7
- ช่อง 8
- ช่อง 9 MCOT
- NBT
- TPBS
- ไทยรัฐทีวี
- PPTV 36
- GMM 25
- เนชั่นทีวี
- ONE 31
- อมรินทร์ทีวี
- MONO29
- JKN 18
*หมายเหตุ ช่องทางการรับชมอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ติดตามการอัพเดทได้ที่นี่!
ในฟุตบอลโลก 2026 เราคาดหวังจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับสิ่งที่ทางกลุ่มสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (FIFA) ได้มีการแถลงไว้ อย่างไรก็ตามการติดตามรับชมฟุตบอลโลกทำให้เราได้รับความบันเทิงไม่มากก็น้อย และยังทำให้เราคอยติดตามอัพเดทเรื่องราวต่างๆเพิ่มเติมมาอีกเรื่อยๆ หากคุณสนใจฟุตบอลเรายังมีอีกหลายบทความให้คุณอ่านเรื่องราวต่างๆที่คุณเองอาจจะยังไม่เคยรู้ที่ไหนมาก่อน ติดตามอ่านบทความเพิ่มเติม
